สะเทือนใจ! คนใกล้ชิดเผยพฤติกรรม กำนันยอง ก่อนถูกยิงดับ


สะเทือนใจ! คนใกล้ชิดเผยพฤติกรรม กำนันยอง ก่อนถูกยิงดับ

จากกรณี นายพะยอม หรือกำนันยอง อายุ 64 ปี อดีตกำนันตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าชะมวง หมายเลข 2 หัวหน้าทีมพลังใหม่พัฒนาท่าชะมวง ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิงเสียชีวิต ขณะนั่งรถนั้น

ล่าสุดนายมานิตย์ พรหมชนะ เลขานุการกลุ่มทีมพลังใหม่พัฒนาท่าชะมวง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กำนันยองนำทีมลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่อง และได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี โดยกำนันไม่เคยบอกเล่าหรือแสดงความกังวลใจถึงปัญหาใด ๆ ให้ทีมงานทราบ

ก่อนเกิดเหตุ กำนันยองได้ออกพบปะประชาชน และเข้าร่วมประชุมวางแผนการหาเสียงกับคณะทำงาน ระหว่างการประชุมมีโทรศัพท์จากบุคคลปริศนาโทรเข้ามา แต่กำนันยองไม่ได้บอกว่าเป็นใคร หลังเสร็จสิ้นการประชุมทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนจะทราบข่าวอีกครั้งว่ากำนันยองถูกยิงเสียชีวิต

ขณะที่คณะทำงานของกลุ่มอีกคนหนึ่งระบุว่า กำนันยองไม่เคยเล่าถึงปัญหาหรือความขัดแย้งใด ๆ ให้ฟัง โดยการทำงานของทีมมุ่งเน้นการพบปะประชาชนและการเดินเคาะประตูบ้านเพื่อขอคะแนนเสียงเป็นหลัก จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุของการก่อเหตุมาจากเรื่องใด

ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดพัทลุง สงขลา และสืบสวนภาค 9 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ รวมถึงเส้นทางหลบหนี และเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เบื้องต้นพบเพียงร่องรอยว่าคนร้ายใช้รถยนต์ก่อเหตุ โดยมีการยิงจากกระบะด้านหลัง ก่อนประกบยิงกำนันยองจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป

เล่านาทีสุดท้าย อส.อัสรี เจะโด ก่อนถูกคนร้ายซุ่มยิง ต่อหน้าภรรยา วันที่ 20 ธันวาคม 2568 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความอาลัยและสดุดีต่อการเสียสละของ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อัสรี เจะโด วัย 34 ปี ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ข้อความระบุว่า ขอสดุดีในความกล้าหาญและความเสียสละของ อส.อัสรี เจะโด ผู้ยืนหยัดทำหน้าที่เพื่อมาตุภูมิและสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนจะเสียชีวิตจากการกระทำอันโหดร้ายของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568

การจากไปของ อส.อัสรี เจะโด นับเป็นความสูญเสียไม่เพียงต่อครอบครัวและญาติพี่น้องเท่านั้น แต่ยังเป็นความสูญเสียของสังคมและประเทศชาติ เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่อุทิศตน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและความกล้าหาญเพื่อแผ่นดินไทยมาโดยตลอด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต

พร้อมกันนี้ ได้ยืนยันว่าจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและศักดิ์ศรีของผู้ที่เสียสละ โดยวีรกรรมของ อส.อัสรี เจะโด จะถูกจารึกไว้ในความทรงจำ ในฐานะผู้กล้าที่มอบชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินไทยตลอดไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่าวานนี้ (19 ธ.ค. 68) อส.อัสรี เจะโด ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนซุ่มยิงจากสวนผลไม้ข้างบ้านพัก จำนวน 1 นัด ขณะนั่งขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เพื่อเตรียมเดินทางไปประกอบพิธีละหมาดวันศุกร์ ภรรยาได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งออกมาดู พบว่าสามีถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ก่อนตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน และนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลจะแนะ ต่อมาผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *